วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีใช้หนี้พ่อแม่และหน้าที่ของเด็ก


วิธีใช้หนี้พ่อแม่และหน้าที่ของเด็ก
โดย ... พระธรรมสิงหบุราจารย์  (หลวงพ่อจรัญ  ฐิตธม.โม)

ดิฉันจะขอนำเสนอข้อคิดดีๆ หรือหลักธรรมที่เข้าใจง่ายของหลวงพ่อจรัญได้เทศน์ไว้  ดังนี้

Ø วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลย   จงสร้างความดีให้กับตัวเอง  และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง  ตัวเราพ่อให้หัวใจ  แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว  จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน  จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน  บางคนรังเกียจแม่ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม  พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ  จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก ฯ

Ø พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก  ไม่ต้องไปตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอก  เหลียวดูพ่อแม่ในบ้าน  แล้วท่านจะรู้สึกว่า  ได้ทำดีตั้งแต่วันนี้แล้วฯ

Ø อย่ายืนพูดกับพ่อแม่  อย่าบังอาจกับพ่อแม่  พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก  พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก  ก่อนออกจากบ้านจึงต้องกราบพ่อแม่ ๓ หน  ที่เท้า ฯ

Ø ท่านโปรดจำไว้   วันเกิดของลูกคือวันตายของแม่  เพราะวันที่ลูกเกิดนั้น  แม่อาจต้องเสียชีวิตการออกศึกสงครามเป็นการเสี่ยงชีวิตสำหรับคนเป็นพ่อฉันใด  การคลอดลูกก็เป็นการเสี่ยงตายสำหรับคนเป็นแม่ฉันนั้น ฯ

Ø ถ้าวันเกิดเลี้ยงเหล้า  จดไว้ได้เลยจะอายุสั้น  จะบั่นทอนอายุให้สั้นลง  น่าจะสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมให้พ่อแม่  วันเกิดของเราคือวันตายของแม่เรา  ไปกราบพ่อกราบแม่  ขอพรพ่อแม่  รับรองพ่อแม่ให้พรลูกรวยทุกคน  ไปเลี้ยงพ่อแม่ให้อิ่มค่อยไปเลี้ยงเพื่อน ฯ

Ø สอนเด็กว่าวันเกิดของเรา  อย่าพาเพื่อนมาให้พ่อแม่ทำครัวให้นะ  เธอจะบาป  ทำมาหากินไม่ขึ้น  เธอต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้อิ่มก่อน  แล้วจึงไปเลี้ยงเพื่อนทีหลัง ฯ

Ø ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว  ขอให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน  และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป  การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งผู้ให้แล้ผู้รับ ฯ

Ø ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่  ก็ให้กลับไปหาแม่ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน  จะได้มั่งมีศรีสุขส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่านก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม  ล้างเท้าให้ท่านด้วย  เป็นการขอขมาลาโทษ ฯ

Ø ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน  อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย  ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก  แค่คิดว่าพ่อแม่เราไมดีก็ทำมาหากินไม่ขึ้น  เจ๊ง  ท่านต้องแก้ปัญหาก่อน  คือถอนคำพูด  ไปขอสมาลาโทษเสียแล้วมาเจริญกรรมฐาน  รับรองสำเร็จแน่  มรรคผลเกิดแน่ ฯ

Ø บางคนลืมพ่อลืมแม่  อย่าลืมนะ  การเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดีขอบิณฑบาต  ลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลัง  ดำน้ำไม่โผล่ ฯ

Ø คนที่มีบุญวาสนา  จะกตัญญูกับพ่อแม่  คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้....คนไม่พูดกับพ่อแม่  นั่งกรรมฐานร้อยปีก็ไมได้อะไร  ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯ

Ø ขออโหสิกรรมที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่  คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์  คิดไม่ดีกับพี่ๆ น้องๆ  จะไม่เอาอีกแล้ว  เอาน้ำไปขันหนึ่ง  เอาดอกมะลิโรย  กายกัมมัง  วจีกัมมัง  มโนกัมมัง  โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด  ความผิดอันใดที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไปด้วยกายก็ดี  ด้วยวาจาก็ดี  ด้วยใจก็ดี  ทั้งต่อหน้าและลับหลัง  ขอให้คุณพ่อคุณแม่  คุณปู่คุณย่า  คุณตาคุณยาย  คุณพี่คุณน้อง  อโหสิกรรมให้ด้วย  แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ

Ø หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่  เหลือจะนับประมาณนั้น  คือหนี้บุญคุณของบิดามารดา ฯ

Ø อย่าเถียงพ่อแม่  ไม่เถียงครูบาอาจารย์   ไม่เถียงผู้ใหญ่  ต้องดุษณีภาพ  นิ่งไว้ด้วยความเคารพถึงท่านจะผิดถูกประการใด   ท่านเป็นรัตตัญญู  รู้กาลเวลากว่าเรา  บอกว่าเราเป็นเด็กเกิดมาภายหลัง  เราว่าท่านพูดไม่ถูกสำหรับเรา  แต่ถูกสำหรับท่านนะ  พ่อแม่เกิดมาก่อน  อย่าเถียงนะ  เป็นบาปฯ 

Ø คุณหนู  หมั่นจด  หมั่นจำ   หมั่นจำ  หมั่นจด   สิ่งใดงาม  อย่าได้งด  คุณหนูหมั่นจด หมั่นจำทำให้จริง  เรียนให้รู้  ดูให้จำ  ทำให้จริงฯ
สามรู้ สามดี
(๑)  รู้ไว้ใช่ว่า  ใส่บ่าแบกหาม
(๒) รู้อะไร  ไม่สู้รู้วิชา
(๓) รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
ดี     ที่เป็นปรารถนาของทุกคน
ดี     ที่เป็นที่สนใจของทุกคน
ดี     ที่ละชั่วได้
(ท่านมาสร้างบุญ  ต้องละบาป   มาสร้างความดี  ต้องละความชั่ว  จึงจะเป็นที่ปรารถนาของทุกคน  เป็นที่สนใจของทุกคน  เรียกว่า  ความดี)

Ø หน้าที่ของลูกโดยย่อ  หน้าที่ของลูกเมื่อกล่าวโดยย่อ  มีอยู่ ๗ ข้อ คือ
(๑)  พ่อแม่ได้เลี้ยงเรามาแล้วก็เลี้ยงท่านตอบ
(๒) ช่วยทำกิจการงานของพ่อแม่
(๓) ดำรงวงศ์ตระกูลของพ่อแม่
(๔) ประพฤติตนให้เป็นคนสมควรรับทรัพย์มรดกของพ่อแม่
(๕) เมื่อพ่อแม่ล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศให้ท่าน
(๖)  มั่นอยูในกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่
          (๗) เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่  ในทางที่ถูกต้องโดยเคร่งครัด

Ø กัน                                        อยู่ที่                                 แม่
แก้                                         อยู่ที่                                 พ่อ
ก่อ                                         อยู่ที่                                ลูก
ปลูก                                       อยู่ที่                                ครู
ความรู้                                   อยู่ที่                                ศิษย์   เป็นมิตรกันฯ
Ø รักวัว                                      ต้อง                                ผูก
รักลูก                                      ต้อง                                ตี                        
รักมี                                        ต้อง                                ค้า
รักหน้า                                   ต้อง                                คิด
รักมิตร                                   ต้อง                                เตือนกันฯ

ปุพ.พาจริยาติ  จุจ.จเร
บิดามารดา
เป็นบุรพาจารย์ของบุตร

 


             ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อคิดดีๆ หรือหลักธรรมเล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านทุกๆท่าน ไม่มากก็น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น